บทเรียนที่ 2
การตัดต่อวีดีโอด้วย Cap Cut
Cap Cut คือแพลตฟอร์มสำหรับการสร้างสรรค์สื่อออนไลน์ที่ครบวงจร ตั้งแต่ภาพ วิดีโอ โดยสามารถทำงานได้ทั้งบน PC หรือ สมาร์ทโฟนได้ทั้ง มือถือ และ Tablet อีกทั้งยังมี AI ซึ่งช่วยให้คุณแก้ไขวิดีโอและออกแบบรูปภาพได้บนเบราว์เซอร์, Windows, Mac, Android และ iOS. โดยสามารถใช้งานได้ฟรี
Cap Cut เป็นโปรแกรมในการแก้ไขวิดีโอที่ใช้งานง่าย มีฟอนต์ และเอฟเฟกต์ฟรีภายในแอป ฟีเจอร์ขั้นสูงฟรี เช่น การทำภาพเคลื่อนไหวด้วยคีย์เฟรม สโลโมชั่นแบบลื่นไหล โครมาคีย์ และการลดการสั่นไหว เพื่อช่วยคุณในการจับภาพและตัดต่อวิดีโอ ได้อย่างมืออาชีพ ทั้งออนไลน์ และบนอุปกรณ์ต่างๆ
ข้อดีของโปรแกรม Cap Cut
ตัวโปรแกรมมี ฟอนต์, ฟิลเตอร์, เอฟเฟกต์, เสียงประกอบ, เพลง ฯลฯ ที่สามารถใช้งานกันได้ฟรีภายในตัวแอพ ไม่ต้องไปหาดาวน์โหลดเอง หรือใครต้องการจะใช้ของตัวเองก็สามารถเพิ่มเข้าไปในแอพได้
รองรับการตัดต่อวิดีโอที่มีความละเอียงสูง สามารถ Export วิดีโอความละเอียดสูงสุดได้ที่ 4K, 60fps เลยด้วย
รองรับการทำ Animation
มีเครื่องมือที่ช่วยในการลดเสียงรบกวน, ลดการสั่น ฯลฯ ของวิดีโอ
รองรับการใส่ Auto Caption, Text to speech
มี AI ที่ช่วยในการประมวลผลและปรับแต่งวิดีโอ
มีเครื่องมือในการปรับแต่งเยอะ ไม่ว่าจะเป็น การปรับความสว่าง, ปรับ Contrast, ปรับความอิ่มของสี, ปรับอุณหภูมิสี และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย
มีโหมดปรับผิว แต่งหน้า ปรับรูปหน้า ฯลฯ
สามารถใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์ รองรับหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานบน สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์ ทั้ง Windows และ macOS เป็นต้น
มีให้ดาวน์โหลดทั้งรูปแบบ แอพพลิเคชัน, โปรแกรม และ เว็บไซต์
สามารถ Export วิดีโอได้แบบไม่ติดลายน้ำ
รองรับการเชื่อมต่อและอัปโหลดคลิปวิดีโอไปยัง TikTok ได้เลย
รองรับการใช้งานภาษาไทย
เครื่องมือ Cap Cut ในคอมพิวเตอร์ที่น่าสนใจ
Cap Cut เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ที่มีเครื่องมือมาให้เราได้ใช้งานกันอย่างครบครัน เครื่องมือที่ทีมงานนำมาแนะนำกันก็จะเป็นเครื่องมือการตัดต่อ ปรับแต่งวิดีโอ พื้นฐาน ที่ตัวโปรแกรมมีมาให้เราใช้งานกัน
ที่มาของภาพ : https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2024/03/cc3-1536x837.jpg
ที่มาของภาพ : https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2024/03/cc5.jpg
Media: จะเป็นเครื่องมือที่ให้เราสามารถนำเข้าไฟล์ ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์วิดีโอ, รูปภาพ และเสียง
Audio: จะเป็นส่วนสำหรับการเพิ่มเสียง ไม่ว่าจะเป็น เพลง, เสียงเอฟเฟกต์, เสียงจากวิดีโอ หรือนำเข้าเสียงจาก TikTok
Text: เครื่องมือสำหรับการเพิ่มหรือแทรก ข้อความ มีให้เลือกทั้งรูปแบบข้อความ, เอฟเฟกต์ของข้อความ, การใส่แคปชันในวิดีโอ เป็นต้น
Sticker: เครื่องมือในการใส่สติ๊กเกอร์, ไอคอนต่างๆ เพื่อเพิ่มลูกเล่นหรือตกแต่งวิดีโอให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
Effect: เป็นเครื่องมือสำหรับใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ ภายในวิดีโอ
Transitions: เครื่องมือสำหรับการเพิ่มลูกเล่นต่างๆ ให้วิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นการใส่เพื่อเปลี่ยนฉาก, เชื่อมวิดีโอเข้าด้วยกัน, ตัดสลับ หรือเพิ่มลูกเล่นอื่นๆ
Filters: เพิ่มความสวยงามให้กับวิดีโอด้วยการใส่ฟิลเตอร์ มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งแบบใช้งานฟรี และแบบที่ต้องอัพเกรดเป็น Pro
ที่มาของภาพ : https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2024/03/cc8.jpg
ในส่วนนี้จะเป็นแถบ Timeline ที่แสดงความยาวของคลิปวิดีโอ รวมไปถึงแต่ละฉากแต่ละเฟรมที่เราต้องการจะแก้ไข ด้านบนมีเครื่องมือในการตัดต่อ ตามลำดับดังนี้
เครื่องมือสำหรับการเลือกวัตถุ
ย้อนกลับ
ทำซ้ำ
Split เพื่อแยกภาพหรือวิดีโอในส่วนที่ต้องการ
ลบ
Freeze เพื่อตรึงวิดีโอหรือขยายวิดีโอเพิ่มขึ้น
Reverse เพื่อเคลียร์ค่าตั้งต้น
กลับด้านภาพหรือวิดีโอที่เลือก
หมุนภาพหรือวิดีโอที่เลือก
ครอบตัด
ที่มาของภาพ : https://notebookspec.com/web/wp-content/uploads/2024/03/cc7.jpg
เมนูนี้จะเป็นส่วนที่แสดงเมื่อเราได้เลือกวิดีโอที่อยู่ในส่วนของ Timeline สามารถปรับแต่งขนาด ความเร็ว ไปจนถึงการจัดตำแหน่งวิดีโอ
Video: จะมีเครื่องมือเกี่ยวกับขนาดและภาพของวิดีโอ รวมไปถึงตำแหน่ง
Cutout >> ลบฉากหลังหรือภาพพื้นหลังออก เช่น การลบพื้นหลังของตัวคนซึ่งโปรแกรมจะทำให้เราโดยอัตโนมัติ
Mask >> ปรับภาพหรือวิดีโอให้เป็นรูปร่างต่างๆ
Enchance >> ปรับรูปหน้าบุคคลให้มีความสวยงาม ดูสมูท มากยิ่งขึ้น หรือจะปรับโครงหน้า แต่งหน้า ฯลฯ ก็ได้
Audio: จะเป็นการปรับแต่งเกี่ยวกับเสียง เช่น การลด Noise, Fade-in, Fade-out เสียง เป็นต้น
Speed: ปรับแต่งความเร็ว ความช้า ของวิดีโอ
Animation: เพิ่มลูกเล่นให้กับภาพและวิดีโอ
Adjustment: เมนูสำหรับการปรับแต่งสีของภาพหรือวิดีโอ ปรับค่าต่างๆ
ที่มาของข้อมูล : https://notebookspec.com/web/745062-knowing-capcut-windows-macos